เพราะการพักผ่อนที่ชาร์จพลังชีวิตได้ดีที่สุดคือ
“การนอน” แต่เชื่อหรือไม่ว่าแม้คุณจะนอนได้ในระยะเวลา
8 ชั่วโมงตามที่แพทย์หรือนักดูแลสุขภาพทั้งหลายต่างออกมาแนะนำว่าดีที่สุด
แต่มันอาจไม่ได้ส่งผลดีต่อสุขภาพเฉกเช่นคนอื่นๆ ก็เป็นได้ หากคุณนอนผิดวิธี
อาทิเช่น คนที่นอนตั้งแต่ 22.00-06.00 น. กับคนที่นอนตั้งแต่
01.00-09.00 น. จะมีความกระฉับกระเฉงแตกต่างกัน
อีกทั้งยังส่งผลต่อระบบการทำงานภายในที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย นอกจากนี้เตียง ท่านอน
ชุดนอน และแสงไฟต่างๆ
ก็ยังส่งผลต่อการนอนว่าคุณจะตื่นมาพร้อมสุขภาพที่ดีหรือแย่ได้อีกด้วย
ประโยชน์ของการนอนหลับ
การนอนหลับอย่างเพียงพอถือเป็นสิ่งสำคัญของชีวิต เพราะมีประโยชน์หลายประการ อาทิ ทำให้สุขภาพดี ไม่เป็นโรคร้ายแรงต่างๆ อย่างโรคหัวใจ ความดันต่ำ โรคเบาหวาน ซึ่งล้วนเกิดจากการนอนไม่หลับต่อเนื่องเป็นเวลานานทั้งสิ้น การนอนหลับอย่างเพียงพอยังช่วยให้ฉลาดและความจำดีขึ้น เพราะการนอนหลับอย่างเต็มที่จะช่วยทำให้ไม่ลืม
สิ่งต่างๆ ที่กักเก็บข้อมูลมาทั้งวัน ทำให้สามารถทำสิ่งเหล่านั้นในวันต่อไปได้อย่างถูกต้องแม่นยำ แถมยังช่วยให้เข้าใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย และการนอนหลับอย่างเพียงพอยังทำให้มีรูปร่างที่ดีได้ เนื่องจากการนอนจะช่วยให้ระบบการเผาพลาญสามารถทำงานได้ดีนั่นเอง จะเห็นได้ว่า หากเราสามารถนอนหลับได้อย่างเพียงพอแล้ว ย่อมทำให้เรามีสุขภาพดีทั้งภายนอกและภายใน
วิธีง่ายๆ ในการนอนเพื่อให้ได้สุขภาพดี
- ขั้นแรก เริ่มจากเปลี่ยนทัศนคติเรื่องการนอนใหม่ ควรให้สำคัญกับเรื่องนี้ให้มากขึ้น คิดว่าเป็นการชาร์จพลังงานร่างกายให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่าในวันถัดไป และหากใครคิดว่าการนอนดึกตื่นสายเป็นการนอนที่ถูกต้อง เพราะใช้เวลานอนเท่ากับนอนเร็วตื่นเช้า ความจริงแล้วเป็นสิ่งที่ผิด เพราะการนอนแต่หัวค่ำและตื่นเช้าจะทำให้ร่างกายมีความกระปรี้กระเปร่าในการทำงานได้ดีกว่า
- เข้านอนให้เป็นเวลา ซึ่งช่วงเวลานอนที่เหมาะสมที่สุด ไม่เว้นวันหยุด คือ 22.00-06.00 น. เพราะร่างกายจะพักผ่อนได้เต็มที่จากการหลับลึกในช่วงครึ่งแรกของการนอน การเข้านอนเป็นเวลาจะช่วยสร้างความเคยชินให้กับร่างกาย ทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็นประจำ
- สภาพแวดล้อมของห้องนอนเป็นสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ที่ช่วยให้การนอนมีสุขภาพที่ดี ไล่มาตั้งแต่ลักษณะของเตียงนอนที่มีขนาดเหมาะสม มีความสบายไม่ทำให้อึดอัดเวลานอน ควรใช้ที่นอนที่ยัดด้วยนุ่น เพราะไม่แข็งหรือนุ่มจนเกินไป หมอนหนุนคอควรเลือกที่มีความนุ่มและขนาดที่พอดี เพราะหมอนมีส่วนช่วยรองรับกระดูกสันหลังส่วนคอให้อยู่ในแนวโค้งที่ปกติ ภายในห้องนอนควรหรี่ไฟให้สลัวก่อนเข้านอนประมาณ 1 ชั่วโมง เพื่อเตรียมสมองว่าถึงเวลาพักผ่อนแล้ว รวมทั้งปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศในห้องให้พอดีไม่หนาวหรือร้อนเกินไป และปิดโทรทัศน์ให้เรียบร้อยก่อนนอน ป้องกันแสงและเสียงจากโทรทัศน์มารบกวน
- ท่าทางการนอน เนื่องจากในขณะที่หลับกล้ามเนื้อรอบๆ คอจะคลายตัว หากคออยู่ในท่าที่ไม่ดี ตื่นมาอาจปวดคอหรือคอแข็งได้ ส่วนท่านอนที่ดีที่สุด ควร “นอนตะแคงขวา” เพราะจะช่วยให้หัวใจเต้นสะดวก อาหารจากกระเพาะจะถูกบีบลงลำไส้เล็กได้ดี ทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ด้วย ท่าที่ควรหลีกเลี่ยงคือ การนอนคว่ำ เพราะเป็นท่านอนที่ทำให้หายใจติดขัด และปวดต้นคอ
- เตรียมตัวก่อนนอนการอาบน้ำอุ่นประมาณ 45 นาทีก่อนเข้านอน เพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อและจิตใจผ่อนคลาย ชุดนอนควรเลือกผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่ระคายเคืองผิว อาจเลือกดื่มเครื่องดื่มเบาๆ ซักแก้ว อย่างชาคาโมไมล์อุ่นๆ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น หรือดื่มน้ำสะอาดอุ่นๆ ที่ผ่านการผลิตที่ได้มาตรฐาน เพื่อให้น้ำไหลเวียน ชะล้างสิ่งที่ตกค้างในลำไส้ และกระเพาะอาหาร ช่วยให้หลับสบายมากยิ่งขึ้น
o ทั้งหมดนี้ เป็นเคล็ด (ไม่) ลับง่ายๆ
ที่ช่วยให้คุณชาร์ตแบตร่างกายด้วยการนอนหลับอย่างสบายๆ แบบสุขภาพดี
ตื่นเช้าอย่างสดชื่นพร้อมรับวันทำงานได้อย่างเต็มที่
ขอบคุณครับสำหรับบทความที่มีสาระเพื่อสุขภาพที่ดีๆ
ตอบลบ